เปิดแชตคำต่อคำ ดิวอริสรา ยืม เงินซุง 20ล้าน

เปิดแชตคำต่อคำ ดิวอริสรา ยืม เงินซุง 20ล้าน ก่อนเอาสร้อย เมย์ วาสนา ไปขาย

เปิดแชตคำต่อคำ ดิวอริสรา ยืม เงินซุง 20ล้าน เรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสร้อนแรงและได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ คือกรณีของดิว อริสรา ล่าสุด ซุง ศตาวิน อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ซึ่งถูกดิวอ้างชื่อเพื่อไปยืมของกับเมย์ วาสนา ได้ออกมาเปิดใจในรายการ “โหนกระแส” พร้อมเปิดเผยจุดเริ่มต้นของการยืมเงินทั้งหมด

ข่าวด่วนเปิดใจซุง ศตาวิน ชี้แจง — เปิดแชตคำต่อคำ ดิว อริสรา ยืมเงิน ซุง ศตาวิน 20 ล้าน ก่อนเอาสร้อย เมย์ วาสนา ไปขาย

ซุงเปิดเผยว่าดิวได้ขอยืมเงินจำนวน 12.5 ล้านบาท โดยมอบเช็คจำนวนเงินดังกล่าว พร้อมกับต่างหูเพชรเม็ดใหญ่เป็นหลักประกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าต่างหูเพชรดังกล่าวเป็นของปลอมทั้งหมด ไม่มีของแท้เลย ทำให้ซุงรู้สึกตกใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะแต่เดิมตนเชื่อใจดิวในระดับหนึ่ง

เมื่อถึงกำหนดคืนเงินในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 พี่แทมได้โทรแจ้งซุงว่าอาจไม่สามารถคืนเงินได้ และต่อมาดิวได้โทรมาร้องไห้ ขอเลื่อนการชำระหนี้เป็นวันที่ 6 สิงหาคม 2567 โดยให้เหตุผลว่ากำลังเร่งหาเงินมาคืนและขอเวลาเพิ่มอีกเล็กน้อย ซึ่งซุงยังไม่ได้ให้คำตอบในทันที จนกระทั่งเช้าวันที่ 6 สิงหาคม ซุงรู้สึกว่าเงียบผิดปกติ จึงติดต่อพี่แทมเพื่อขอพูดคุยกับดิวโดยตรง นำไปสู่การสร้างกลุ่มไลน์ที่มีซุง พี่แทม และดิว

เปิดแชตคำต่อคำ ดิวอริสรา ยืม เงินซุง 20ล้าน — เปิดแชตคำต่อคำ ดิว อริสรา ยืมเงิน ซุง ศตาวิน 20 ล้าน ก่อนเอาสร้อย เมย์ วาสนา ไปขาย

ในแชตกุล่มนั้น ดิวได้กล่าวขอโทษซุงที่เลื่อนนัดคืนเงินมาตลอด และขอโทษพี่แทมที่ต้องมาคอยออกหน้าแทน พร้อมอ้างว่ากำลังรอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่ตกลงไว้ ดิวรับปากว่าจะจัดการให้เรียบร้อย และยืนยันว่าจะไม่เบี้ยวหนี้ ซุงจึงย้ำว่าดิวรับปากไว้ว่าจะคืนเงินภายในวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งไม่ควรมีข้ออ้างใด ๆ พร้อมส่งเลขบัญชีให้ดิวโอนเงินคืน

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 7 สิงหาคม ซุงต้องทวงถามดิวอีกครั้งว่าจะคืนเงินได้หรือไม่ ดิวแจ้งว่ากำลังจัดการ และสามารถรวบรวมเงินมาได้เพียง 2.3 ล้านบาท พร้อมกล่าวว่ากำลังพยายามขายสร้อยคอ Bvlgari ซึ่งภายหลังพบว่าสร้อยเส้นดังกล่าวเป็นของเมย์ วาสนา โดยเจ้าของร้านเพชรที่มาร่วมในรายการ “โหนกระแส” ยอมรับว่าตนเป็นผู้รับซื้อสร้อยเส้นนี้ในราคา 7 ล้านบาท สร้างความตกใจให้กับซุง เพราะก่อนหน้านี้ดิวให้ข้อมูลว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของตนเอง

ซุงเน้นย้ำว่าไม่ได้ต้องการทรัพย์สินอื่น ๆ แต่ต้องการเงินสด และในที่สุดดิวก็ทยอยโอนเงินคืนจนครบในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดเดิม 1 วัน ดิวได้กล่าวขอโทษซุงและพี่แทมที่ทำให้เกิดปัญหา พร้อมยอมรับผิดทั้งหมด โดยระบุว่าไม่ได้มีเจตนาจะโกงหรือทำให้ใครเดือดร้อน แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความผิดพลาดส่วนตัวและปัญหาทางการเงินที่ซับซ้อน

ต่อมาในวันที่ 2 กันยายน ซุงได้สอบถามดิวถึงดอกเบี้ยที่เหลืออยู่ ดิวตอบว่ายังไม่สามารถกำหนดวันคืนได้ โดยให้เหตุผลว่าพี่แทมไม่ซีเรียสเรื่องนี้ แต่หากได้เงินมาเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบ อย่างไรก็ตาม ซุงต้องการให้ดิวระบุวันคืนเงินที่แน่นอน เนื่องจากแฟนสาวของตนเริ่มทวงถามเช่นกัน แต่ดิวกลับตอบว่า “ยังไม่กล้าระบุวันแน่ชัด เพราะไม่อยากนัดแล้วผิดนัดอีก” และบอกว่า “รู้สึกเข็ดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะวิธีการติดตามทวงถามของซุงที่ใช้ถ้อยคำที่ทำให้รู้สึกไม่ดี”

ซุงชี้แจงว่าตนทวงถามดอกเบี้ยตามคำขอของพี่แทม ซึ่งแจ้งมาว่าตัวเองยังได้รับเงินต้นไม่ครบ 7.5 ล้านบาท ซุงจึงต้องตรวจสอบสถานะทางการเงินของดิว อย่างไรก็ตาม ซุงยืนยันว่าไม่ได้ต้องการดอกเบี้ยเป็นของตนเอง หากได้รับมาก็จะนำไปให้พี่แทมแทน ทั้งนี้ ซุงยังเผยว่าหลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด ตนเองได้เรียนรู้ว่าการให้ยืมเงินจำนวนมากโดยไม่มีหลักประกันที่แท้จริง อาจทำให้เกิดปัญหาซับซ้อนตามมาได้ และแนะนำให้ทุกคนระมัดระวังในการทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงในลักษณะเดียวกัน